1/31/2010

เชื้อราบนไม้ตีรัง ตอนที่ 2

เมื่อท่านได้รู้จักกับเชื้อรา (Fungi) ประเภทต่าง ๆ แล้ว คราวนี้เรามาดูกันนะครับว่าจริง ๆ แล้วเชื้อราจะเกิดขึ้นต้องใช้ปัจจัยอะไรบ้าง และปัจจัยแรก ๆ ที่เชื้อราถามหาครับ เพื่อท่านจะได้ป้องกันไม่ให้เชื้อรามายุ่งเกี่ยวกับบ้านนกแอ่น (Swiftlet House) ที่ท่านได้ลงทุนสร้างขึ้นมาครับ

วันนี้เลยชวนท่านมารู้จักปัจจัยแรกสุดที่เชื้อราต้องการมาก ๆ คือ Water Activity (Aw) ค่านี้มีความสำค้ญอย่างไร คำตอบคือค่า Aw เป็นค่าที่บ่งบอกได้ครับว่า ไม้ของท่านมีโอกาสขึ้นราได้มากน้อยแค่ไหน หลาย ๆ ท่านคงคิดว่าความชื้นสิ ยิ่งความชื้นมาก โอกาสที่ราจะขึ้นก็มีมาก สำหรับความชื้นแล้วเป็นเพียงแค่อีกองค์ประกอบครับที่จะทำให้ราขึ้น

ความแตกต่างสำหรับความชื้นและ Aw สำหรับการตากไม้ให้แห้งหรืออบแห้งถือว่าเป็นการลดค่้า Aw แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นการลดความชื้น สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากน้ำในไม้มี 2 ประเภท คือ น้ำที่เกาะติดกับเนื้อไม้หรือสร้างพันธะกับเนื้อไม้ และน้ำอิสระ(Aw) ที่ไม่ได้สร้างพันธะใด ๆ กับเนื้อไม้ โดยจะอยู่ระหว่างเนื้อไม้ ดังนั้น ปริมาณความชื้นในเนื้อไม้ทั้งหมด (Moisture Content หรือ MC ) จะมาจากน้ำทั้งสองประเภท ขณะที่ Water Activity เป็นน้ำอิสระที่พร้อมจะระเหยออกไป น้ำส่วนนี้เองครับ เป็นน้ำที่เชื้อรานำมาใช้ในการเจริญเติบโต เพราะเป็นน้ำอิสระ ซึ่งถ้าค่า Aw สูง โอกาสที่ไม้ของท่่านจะขึ้นราก็จะมากตามไปด้วยครับ โดยจะมีปัจจัยอื่น ๆ มาเกี่ยวข้องด้วย เช่น อุณหภูมิ และความชื้น ในบ้านนกของท่านหรือในโรงเก็บไม้ของท่านนั่นเองครับ

สำหรับการลด Water Activity ในเนื้อไม้ ท่านควรนำไม้ที่ได้มาตากให้แห้งก่อนขึ้นตีรังครับ หรือสั่งโรงไม้ให้อบแห้งมาให้เลย เป็นการป้องกันที่ดีที่สุดครับ โดยเชื้อราจะเกิดขึ้นได้น้อยมากที่ค่า Water Activity ต่ำกว่า 7 ซึ่งค่านี้จะรู้ได้อย่างไร เอาเป็นว่าถ้าท่านได้ไม้สดมาหลังจากเซาะร่องแล้ว การวางไม้เพื่อรอตีรังควรวางให้ถูกวิธีนะครับ ที่สำคัญเลยคืออย่าวางซ้อนกันโดยไม่มีไม้ขั้นกลาง หลักการนี้เพื่อให้อากาศถ่ายเทให้สะดวก น้ำระหว่างเนื้อไม้ค่อย ๆ ระเหยออก ถ้าวางในห้องที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกก็ประมาณ 1 เดือน แต่ถ้าในห้องที่ร้อนหน่อย อากาศถ่ายเทได้มากหน่อย ครึ่งเดือนก็แห้งพอควรแล้วครับ หลังจากนั้นท่านก็สามารถนำไม้ตีรังขึ้นตีรังได้อย่างสบายใจระดับหนึ่งแล้วครับ เชื้อราจะรุกรานได้ยากหน่อยแล้ว แต่ยังมีนะครับ ยังมีเรื่องความชื้นอีกเรื่องครับ โดยเฉพาะเครื่องที่แรงได้ใจนั่นแหละครับ ตัวดีเลย พ่นจนไปถึงไม้หรือความชื้นมากเกินไป (สำหรับตัวผมถ้าเกิน 85%RH ถือว่าเสี่ยงสูงครับ) น้ำจะกลับไปแทรกอยู่ระหว่างเนื้อไม้อีกรอบ แต่การกลับมาของน้ำครั้งนี้จะอยู่ที่พื้นผิวของไม้ลึกไปไม่เกินครึ่งเซ็นติเมตรครับ เมื่อน้ำกลับเข้าเนื้อไม้แล้ว เชื้อราก็กลับมาหาท่านได้เหมือนกัน

พูดมาซะยาวขอสรุปสั้น ๆ นะครับ ไม้ขณะรอตีรังต้องไม่วางซ้อนกันโดยไม่มีไม้ขั้นระหว่างแผ่นและต้องเป็นไม้ที่ผ่านการตากแห้งหรืออบแห้งมา อุณหภูมิในบ้านต้องไม่ร้อน ยิ่งร้อนราก็โตเร็ว และอากาศในบ้านนกแอ่นของท่าน ต้องถ่ายเทดีในระดับหนึ่งนะครับ ราชอบครับ อับ ๆ ชื้น ๆ แต่อย่าให้ถ่ายเทดีจนขนนกปลิวในบ้านนกนะครับ จะถ่ายเทดีเกินไปหน่อยครับ อย่าลืมด้วยว่าลูกนกแอ่นก็ไม่ชอบลมเหมือนกัน สุดท้ายท่านต้องหาความสมดุลในบ้านนกแอ่นท่านให้ได้นะครับ




ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.g-u-p-p-y.com/viewthread.php?tid=238

หวังว่าคงเป็นข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันเชื้อราได้นะครับ แต่หากเชื้อราเกิดขึ้นแล้ว เราจะทำอย่าไรดี ขอเป็นบทความต่อไปนะครับ

นำเสนอโดย วรชาติ มุนเนียม

1/27/2010

เชื้อราบนไม้ตีรัง ตอนที่ 1


บ้านนกแอ่นท่านสร้างได้ดี ออกแบบถูก แต่ทำไมนกแอ่นไม่ตัดสินใจอยู่ ท่านลองหันไปดูไม้ตีรังของท่านสักหน่อยนะครับ หากเจอเป็นขุย ๆ ขาว ดำ เขียว หรือไม้เปลี่ยนสี ท่านได้เจอสิ่งที่นกแอ่นไม่ชอบแล้วครับ ต้นเหตุคือ เชื้อรา

สำหรับเรื่องเชื้อราบนไม้ตีรังอาจดูไม่ค่อยสำคัญ(ถูกมองข้าม) แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ครับ เพราะถ้าหากไม้ตีรังของท่านขึ้นรา บ้านนกแอ่นท่านก็จะเจอปัญหาที่หนักมาก ๆ หากบ้านนกแอ่นท่านยังไม่มีนกแอ่น นกแอ่นที่บินมาสำรวจก็จะไม่เลือกบ้านนกของท่านอาศัยแน่นอน หากบ้านนกแอ่นท่านมีนกแอ่นอาศัยอยู่แล้ว ไม้ตีรังของท่านขึ้นราเมื่อไหร่ นกแอ่นที่ได้เลือกบ้านนกของท่านแล้วก็จะย้ายไปหาแหล่งที่อยู่ใหม่ ท่านจะได้พบ
นกแอ่นทิ้งรัง ท่านคงไม่อยากเจอประสบการณ์แบบนี้แน่ ๆ นกแอ่นตั้งคิ้วทำรังแล้วแต่รังไม่เต็มซักที ขี้นกบริเวณนั้นก็หายไปด้วย ดังนั้นท่านอย่ามองข้ามเรื่องเชื้อราบนไม้ตีรังนะครับ เริ่มแรกมารู้จักเชื้อรากันก่อน ซึ่งเชื้อราบนไม้จะแบ่งออกเป็นออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการทำลายของเชื้อราที่เขึ้นบนไม้

1.เชื้อราที่ทำให้ไม้ผุ(Decay Fungi) เชื้อราชนิดนี้ถ้าขึ้นบนไม้แล้วจะทำให้เนื้อไม้ผุ ยุ่ย โดยแบ่งได้อีก 3 ประเภทคือ

1.1ราุผุสีน้ำตาล(Brown Rot) หากเชื้อราชนิดนี้ขึ้นบนไม้ตีรังแล้ว เชื้อราจะใช้ cellulose ในเนื้อไม้เป็นอาหาร ทำให้เนื้อไม้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ยุบตัวลงและแตกหักได้ง่าย

1.2ราผุสีขาว (White Rot) เชื้อราชนิดนี้ถ้าหากขึ้นบนไม้แล้วจะไปย่อยสารประกอบในเนื้อไม้ทั้ง lignin และ cellulose ซึ่งอาจทำให้เนื้อไม้น้ำหนักลดลงถึง 90% และยังฟอกสีของเนื้อไม้ทำให้เห็นเป็นสีขาวสลับกับสีของเนื้อไม้ที่ยังไม่ถูกทำลาย

1.3ราผุอ่อน (Soft Rot) จะขึ้นกับไม้ที่อยู่ในที่ชื้นมาก ๆ เชื้อราประเภทนี้จะทำลายรุนแรงบริเวณผิวนอกของเนื้อไม้ ส่วนที่ถูกทำลายจะอ่อนนุ่ม ส่วนที่ไม่ถูกทำลายจะแข็ง ถ้าลองทำไม้ให้เปียกเนื้อไม้ส่วนที่โดนเชื้อราทำลายจะสามารถใช้เล็บขูดออกได้ง่าย

2.เชื้อราที่ทำให้ไม้เปลี่ยนสี (Stain Fungi) เชื้อราประเภทนี้ไม่ทำให้ไม้ผุ แต่ทำให้ไม้เปลี่ยนสีไปจากเดิม เช่น น้ำเงิน เหลือง เขียว ดำ เชื้อราประเภทนี้จะทำลายไม้หลังตัดหรือเลื่อยแล้วรออบแห้ง โดยเมื่อสปอร์ปลิวมาตกบนไม้ที่ผิวไม้ยังมีความชื้นอยู่ เชื้อราจะสร้างสปอร์และเส้นใยขึ้นที่ผิวไม้ ทำให้มองเห็นเป็นสีดำ ๆ แต่ถ้าความชื้นในอากาศน้อยลง ผิวไม้แห้ง เส้นใยของเชื้อราก็จะเจริญเข้าไปในเนื้อไม้อย่างเดียว เนื้อไม้ของท่านก็จะเปลี่ยนสีได้

3.เชื้อราบนผิวไม้ (Mold Fungi) เชื้อราประเภทนี้จะเจริญบนผิวไม้เท่านั้น จะไม่เจริญเติบโตเข้าไปในเนื้อไม้และไม่ทำลายไม้ โดยจะเห็นเป็นสีต่าง ๆ จากสปอร์และเส้นใยของรา สามารถปัดหรือขัดออกได้ มักจะเกิดกับไม้ที่ไม่ได้ผึ่งแห้ง ไม้ที่ยังมีความชื้นอยู่หรือไม้ที่อยู่ในที่ที่อับชื้นหรือสภาวะแวดล้อมที่เปียก

เมื่อท่านได้รู้จักเชื้อราแล้วท่านคงไม่อยากให้เชื้อรามาขึ้นบนไม้ตีรังในบ้านนกแอ่นท่านแน่ ๆ บทความต่อไปผมจะกล่าวถึงสภาวะต่าง ๆ ที่ให้เชื้อราเจริญเติบโตและวิธีกำัจัดเชื้อรา หากท่านได้เข้าใจเรื่องเชื้อราแล้วผมคิดว่าการป้องกันไม่ให้เชื้อราขึ้นเป็นสิ่งที่ดีสุดครับ

ขอบคุณสำหรับแหล่งที่มาของภาพครับ

นำเสนอโดย วรชาติ มุนเนียม

1/08/2010

แบบบ้านนกแอ่น (Swiftlet House Design)

เมื่อถึงท่านได้เรียนรู้มาถึงระดับหนึ่งแล้ว ศึกษาพื้นที่ที่จะสร้างบ้านนกแอ่นจนมั่นใจว่า Location เหมาะสม ยังไงผมก็ยังเน้นคำนี้ทุกครั้งที่นึกได้นะครับ เลือกสร้างผิดที่ อาหารนกแอ่นไม่เพียงพอ ท่านอย่าไปดูตารางการเพิ่มประชากรนกแอ่นนะครับ ไม่มีทางเพิ่มได้ตามที่ท่านต้องการแน่ ๆ ผ่านการเลือกพื้นที่แล้วต่อมาคือการออกแบบบ้านนกแอ่น(ขั้นตอนนี้สนุกครับ) การออกแบบบ้านนกแอ่นนั้นขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ท่านจะสร้าง หากท่านมีพื้นที่กว้างแล้วการออกแบบทำได้ไม่ยากครับ หากแต่ถ้าพื้นที่โดนบังคับด้วยขอบเขต การออกแบบต้องอาศัยสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้มา เมื่อท่านออกแบบบ้านนกแอ่นเสร็จแล้วการให้ผู้มีประสบการณ์ได้ดูและวิเคราะห์สิ่งที่ผิดพลาดเป็นสิ่งที่ดี เพราะหากท่านสร้างบ้านนกแอ่นเสร็จแล้วเกิดปัญหา การแก้ไขตอนหลังจะเป็นเรื่องยุ่งยากมากครับ (บางครั้งกลายเป็นการเกาไม่ถูกที่คัน) ดังนั้นก่อนการสร้างบ้านนกแอ่นท่านจงลดปัญหาต่าง ๆ ในแบบของท่านให้มากที่สุดนะครับ


หัวใจของการออกแบบบ้านนกแอ่นของผมคือ ออกแบบให้ตรงกับพื้นฐานที่ได้เรียนรู้มา ลดการใช้อุปกรณ์ทันสมัยต่าง ๆ (แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการบันทึกข้อมูลนะครับ เอาเป็นว่าใช้แต่ที่จำเป็นครับ) ลงทุนเรื่องการควบคุมความร้อนให้ดีที่สุด อย่ากลัวเสียหน้าถ้าต้องถามผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำบ้านนกแอ่น

แบบตัวอย่างที่ผมได้ออกแบบขึ้นครับ




แบบที่ผมออกแบบนั้นจะเป็นว่ามีเสากลาง เพราะโดนบังคับด้วยขอบเขตของที่ดินครับ หากท่านออกแบบให้ไม่มีเสากลางได้เป็นการดีครับ นกแอ่นจะได้บินกันอย่างสะดวกที่สุด แต่หากท่านมีงบเยอะสร้างหลังใหญ่ ๆ เสาในบ้านนกแอ่นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แน่นอน

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ

นำเสนอโดย วรชาติ มุนเนียม

1/07/2010

ท่านจะเจออะไรบ้างเมื่อจะสร้างบ้านนกแอ่น

สำหรับทุก ๆ ท่านที่มองเห็นโอกาสและต้องการสร้างบ้านนกแอ่น หลังจากท่านได้ศึกษาปัจจัยต่าง ๆ เพื่อสร้างบ้านนกแอ่นแล้ว ท่านมีความรู้ ท่านมีเงินทุน ท่านก็จะดำเนินการสร้างบ้านนกแอ่นเพื่อตามฝันของตัวท่าน แล้วไหนหละสิ่งที่ท่านจะมีโอกาสที่จะเจอเมื่อสร้างบ้านนกแอ่น ท่านอาจบอกว่าก็ นกแอ่นไง ได้เจอแน่ ๆ ครับหากท่านสร้างบ้านนกแอ่นเสร็จ

แต่ที่ผมจะบอกคือ เพื่อนบ้านของท่านครับ หากท่านไม่ได้สร้างบ้านนกแอ่นในที่กว้าง ๆ เป็น ไร่ ๆหรือสร้างอยู่กลางทุ่งแล้ว เพื่อนบ้านที่จะอยู่ข้างบ้านนกแอ่นของท่านนั่นหละครับสำคัญมาก หากเพื่อนบ้านท่านทำบ้านนกแอ่นอยู่ก่อนแล้วคงไม่เป็นไร แต่ส่วนใหญ่แล้วเพื่อนบ้านท่านจะไม่รู้เกี่ยวกับนกแอ่นเลย พอทราบว่าจะมีนกแอ่นมาอยู่เป็นเพื่อนบ้านแล้ว จะวิตกกังวลต่าง ๆ นา ๆ ทั้งเรื่องไข้หวัดนก เชื้อรา กลิ่นเหม็น เสียงรบกวน โรคภัยไข้เจ็บที่จะมากับนกแอ่นหรืออะไรอีกต่าง ๆ มากมายเท่าที่เพื่อนบ้านท่านคิดได้ หน้าที่ท่านคือ การใช้วิชาความรู้ที่ได้ศึกษามาอธิบายให้เพื่อนบ้านเข้าใจเรื่องนกแอ่น ว่าไม่ได้เป็นอันตรายอย่างที่คิดหรือเสียงก็จะไม่รบกวน (สำหรับผมตรงนี้สำคัญมาก) หากเพื่อนบ้านเข้าใจแล้ว ปัญหาเรื่องการร้องเรียนหรือเรื่องคิดกลั่นแกล้งก็จะไม่เกิดขึ้น ที่สำคัญตัวท่านเองต้องทำให้ได้ตามที่พูด หากท่านอธิบายแล้วเพื่อนบ้านยังไม่เข้าใจ การหาข้อมูล ไม่ว่าภาพหรือวิดิโอตัวอย่างบ้านนกแอ่น ไปอธิบายอย่างต่อเนื่อง หรือหาคนที่พูดแล้วเพื่อนบ้านจะเชื่อไปอธิบายแทนท่านได้ ตรงนี้ก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละท่านนะครับ แต่ผมขอแนะนำว่า การอธิบายอย่างนุ่มนวลจนเพื่อนบ้านท่านเข้าใจได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ และเป็นการแสดงว่าท่านได้สอบผ่านอีกขั้นหนึ่ง เมื่อเพื่อนบ้านท่านเข้าใจแล้วท่านก็จะมีเพื่อนบ้านช่วยเป็นหูเป็นตาให้ท่านอีกแรง ปีใหม่ ตรุษจีนก็มีรังนกไปฝากเพื่อนบ้านท่านบ้าง ท่านก็จะทำบ้านนกแอ่นได้อย่างสบายใจ


ในประเทศเพื่อนบ้าน การเปิดเสียงเรียกนกแอ่นเป็นปัญหามาก เปิดแข่งกันไม่เห็นใจข้างบ้าน เปิดทั้งวันทั้งคืน สุดท้ายเพื่อนบ้านร้องเรียนทางราชการ ทางราชการก็มาเล่นงานเจ้าของบ้านนกแอ่น หวังว่าการทำบ้านนกแอ่นของท่านจะไม่รบกวนเพื่อนบ้าน ขอให้ทุกท่านทำบ้านนกแอ่นอย่างมีความสุขนะครับ

นำเสนอโดย วรชาติ มุนเนียม

1/06/2010

เสียงเรียกนกแอ่น ตอนที่ 2 (Swiftlet Internal Sound)

เมื่อท่านมีเสียงเรียกนกแอ่นที่เป็นเสียงนอกที่ได้ผลแล้ว คือนกแอ่นตอบสนองเสียงที่ท่านเปิดแล้วสามารถดึงนกแอ่นให้เข้ามาสำรวจภายในบ้านนกแ่อ่นที่ท่านสร้าง คราวนี้เป็นหน้าที่ของเสียงเรียกนกแอ่นที่เป็นเสียงใน (Swiftlet Internal Sound)

เสียงเรียกนกแอ่นที่เป็นเสียงเรียกในนั้น จะมีหน้าที่ทำให้นกแอ่นที่บินเข้ามาสำรวจในบ้านรู้สึกว่าภายในบ้านมีนกแอ่นตัวอื่นอาศัยอยู่และทำให้นกแอ่นที่เข้าสำรวจรู้สึกปลอดภัย โดยหลัก ๆ แล้วจะมีสองเสียงอยู่รวมกัน คือ

1. เสียงของลูกนกแอ่น
2. เสียงของพ่อแม่นกแอ่น

สำหรับเสียงเรียกนกแอ่นที่เป็นเสียงเรียกในนั้น ที่มีขายก็จะแตกต่างกันไป มีทั้งเสียงนกแอ่นที่เป็นเสียงลูกนกแอ่นอย่างเดียว นาน ๆ จะได้ยินเสียงพ่อแม่นกแอ่นสักครั้ง หรือบางเสียงจะมีทั้งเสียงลูกนกแอ่นและเสียงพ่อแม่นกแอ่นอย่างหนาแน่น แต่ที่สำคัญท่านต้องเลือกเสียงที่คมชัดและมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด ซึ่งตอนนี้ผมได้เลือกเสียงที่จะเปิดภายในได้แล้ว จากเสียงเรียกในที่ผมมีอยู่ 5 เสียงสำหรับบ้านนกแอ่นหลังแรกของผมเอง

ท่านสามารถหาเสียงเรียกนอกแอ่น (Swiftlet Sound) ได้จากที่ไหนบ้าง คำตอบคือจากผู้ัีมีบ้านนกแอ่นแล้ว และหากบ้านนกแอ่นหลังนั้นประสบความสำเร็จ อย่างน้อยเสียงเรียกที่เจ้าของบ้านนั้นใช้ต้องเป็นเสียงที่ดีแน่ ๆ ครับ หรือดูตาม Blog ที่มีเสียงเีรียกนกแอ่นขาย มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเมื่อท่านมีเสียงเรียกนกแอ่่นของท่านเองแล้ว การแลกเสียงเรียกนกแอ่นกับกลุ่มผู้เลี้ยงนกแอ่นคนอื่นก็ไม่ยากครับ หากทั้งสองฝ่ายมีความต้องการที่จะแลกเปลี่ยนเสียงเรียกนกแอ่นเหมือนกัน

ขอให้ทุกท่านได้เสียงเรียกนกแอ่นที่ดี เรียกนกแอ่นมาอาศัยที่บ้านนกแอ่นของทุก ๆ ท่านนะครับ

นำเสนอโดย วรชาติ มุนเนียม

1/05/2010

เสียงเรียกนกแอ่น ตอนที่ 1 (Swiftlet External Sound)

บ้านนกแอ่น (Swiftlet House) จะประสบความสำเร็จได้มีหลาย ๆ ปัจจัย โดยในแต่ละพื้นที่ปัจจัยที่สำคัญก็จะแตกต่างกันครับ เช่น พื้นที่ที่มีกระแสลมแรงมาก ลมก็จะเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ ในการควบคุม หรือพื้นที่ที่สร้างบ้านนกไกลแหล่งน้ำ (ความชื้นในอากาศจะน้อย) เรื่องอุณหภูมิและความชื้นก็เป็นปัจจัยต้น ๆ ที่ต้องควบคุมให้ได้ แต่มีอยู่หนึ่งปัจจัยที่สำคัญเท่า ๆ กันในการสร้างบ้านนกทุกหลังและทุกพื้นที่คือ เสียงเีรียกนกแอ่น (Swiftlet Sound)

เสียงเรียกนกแอ่น เป็นตัวชี้วัดในการทำบ้านนกแอ่นที่สำคัญมาก ๆ ว่าบ้านนกแอ่นท่านจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ปัจจุบันเสียงเรียกนกแอ่นมีขายกันมากมายหลายเสียง ราคาตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหลายหมื่นบาท แต่ท่านจะรู้ได้ยังไงว่าเสียงเรียกนั้นดีจริง ๆ ท่านไม่สามารถรู้ได้เลยหากท่านไม่ลองฟังและทดลองเรียกนกแอ่น ตัวผมเองตอนนี้มีเสียงเรียกนกแอ่นที่เป็นเสียงนอก 8 เสียง (Swiftlet External Sound) ตอนนี้ผมได้ฟังและทดสอบไปจนเหลืออีกสองเสียงที่ยังไม่ได้ทดสอบ เสียงเรียกนกแอ่นที่ผมได้ฟังและทดสอบดูแล้วมีประมาณสี่เสียงเองครับที่เรียกนกแอ่นแล้วนกตอบสนองดี ตอนนี้ผมกำลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเสียงเรียกนกแอ่นอยู่ หากมีข้อมูลอะไรดี ๆ จะมาบอกกล่าวเพิ่มเติมครับ

เสียงเรียกนกแอ่นที่ดี ควรเป็นเสียงเรียกที่ไม่มีเสียงรบกวน และเป็นเสียงที่นกแอ่นร้องกันอย่างปกติและหนาแน่น ไม่ใช่เสียงนกแอ่นที่กำลังถูกทำร้ายนะครับ เพราะเสียงนี้ถ้าท่านเอามาเปิดที่บ้านนกแอ่นท่าน นกแอ่นมาแน่ ๆ ครับ แต่ไ่ม่อยู่แน่นอน ที่นกแอ่นมาเพราะจะมาช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกทำร้ายครับ


ขอบคุณภาพจาก http://weloveswiftletfarming.blogspot.com

บ้านนกแอ่นท่านหากมีเสียงเรียกนกแอ่นที่ดี โอกาสที่นกแอ่นก็จะเข้าสำรวจและตัดสินใจอยู่ก็จะมีมากกว่าบ้านนกแอ่นหลังอื่นครับ

นำเสนอโดย วรชาติ มุนเนียม